แถลงการณ์ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐเดือนต.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 30, 2014 10:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อคืนนี้ว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนก.ย.บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังขยายตัวในอัตราปานกลาง ภาวะตลาดแรงงานได้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งและอัตราว่างงานลดต่ำลง เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว ปัจจัยชี้วัดต่างๆเกี่ยวกับตลาดแรงงานบ่งชี้ว่าภาวะการใช้ประโยชน์ในระดับต่ำเกินไปจากทรัพยากรด้านแรงงานนั้น กำลังลดน้อยลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป การใช้จ่ายภาคครัวเรือนกำลังเพิ่มขึ้นปานกลาง และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจกำลังปรับตัวดีขึ้น ขณะที่การฟื้นตัวในภาคที่อยู่อาศัยยังคงชะลอลง เงินเฟ้อยังคงปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวของคณะกรรมการ มาตรวัดการชดเชยเงินเฟ้อที่อิงกับตลาดได้ลดลงไปบ้าง ขณะที่มาตรวัดการคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวที่อิงกับผลสำรวจยังคงทรงตัว

คณะกรรมการ FOMC พยายามที่จะสนับสนุนการจ้างงานในระดับสูงสุดและความมีเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งสอดคล้องกับขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเฟด คณะกรรมการคาดว่า ด้วยการผ่อนคลายนโยบายอย่างเหมาะสม กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะขยายตัวในอัตราปานกลาง โดยปัจจัยชี้วัดตลาดแรงงานและเงินเฟ้อได้ปรับตัวใกล้ระดับที่คณะกรรมการพิจารณาว่าสอดคล้องกับเป้าหมายหลัก 2 ประการ คณะกรรมการเล็งเห็นความเสี่ยงต่อแนวโน้มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน ซึ่งเกือบจะมีความสมดุล แม้ว่าเงินเฟ้อในระยะใกล้จะมีแนวโน้มปรับตัวลงจากราคาพลังงานที่ลดลงและปัจจัยอื่นๆ แต่คณะกรรมการประเมินว่าความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อจะปรับตัวต่ำกว่า 2% อย่างต่อเนื่องนั้น ได้ลดลงไปบ้างนับตั้งแต่ต้นปีนี้

คณะกรรมการพิจารณาว่ามีแนวโน้มสำหรับตลาดแรงงานมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรในปัจจุบัน นอกจากนี้ คณะกรรมการยังคงมองว่าเศรษฐกิจโดยรวมมีความแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญเพียงพอที่จะช่วยสนับสนุนความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องสู่การจ้างงานสูงสุดในบริบทของความมีเสถียรภาพด้านราคา ดังนั้น คณะกรรมการจึงตัดสินใจยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในเดือนนี้ คณะกรรมการยังคงดำเนินนโยบายที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อไปในการนำเงินต้นที่ได้รับจากการถือครองตราสารหนี้ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ไปลงทุนใหม่ใน MBS ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และเข้าซื้อพันธบัตรชุดใหม่เมื่อพันธบัตรเดิมครบกำหนดไถ่ถอนในการประมูล นโยบายนี้ ซึ่งคณะกรรมการจะยังคงถือครองหลักทรัพย์ในระยะยาวขึ้นเป็นจำนวนมาก น่าจะยังคงช่วยให้ภาวะทางการเงินมีความเหมาะสม

ในส่วนของการสนับสนุนให้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องสู่การจ้างงานสูงสุดและความมีเสถียรภาพด้านราคานั้น คณะกรรมการได้ยืนยันอีกครั้งในวันนี้ถึงมุมมองที่ว่า ช่วงเป้าหมายในปัจจุบันของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ที่ 0-0.25% นั้น ยังคงมีความเหมาะสม และในการที่จะตัดสินใจว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ช่วงเป้าหมายนี้ต่อไปนานเพียงใดนั้น คณะกรรมการจะประเมินความคืบหน้าสู่เป้าหมายของการจ้างงานในระดับสูงสุดและเงินเฟ้อที่ 2% ทั้งในแง่ความเป็นจริงและคาดการณ์ การประเมินนี้จะพิจารณาข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงการประเมินภาวะตลาดแรงงาน, ปัจจัยชี้วัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อ ตลอดจนการพิจารณาถึงความคืบหน้าทางการเงินต่างๆ เมื่ออิงกับการประเมินในปัจจุบัน คณะกรรมการยังคงคาดว่ามีแนวโน้มที่จะมีความเหมาะสมในการคงช่วงเป้าหมายที่ 0-0.25% สำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นต่อไปอีกเป็นระยะเวลานานหลังจากยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในเดือนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเงินเฟ้อที่คาดไว้จะยังคงปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่ 2% ของคณะกรรมการ และหากการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลที่กำลังจะมีการเปิดเผยบ่งชี้ถึงความคืบหน้าสู่เป้าหมายด้านการจ้างงานและด้านเงินเฟ้อของคณะกรรมการในอัตรารวดเร็วกว่าที่คณะกรรมการคาดการณ์ในขณะนี้ การปรับเพิ่มช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นก็มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดกันไว้ในปัจจุบัน แต่ในทางกลับกัน หากความคืบหน้ามีความล่าช้ากว่าที่คาด การปรับเพิ่มช่วงเป้าหมายดังกล่าวก็มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน

เมื่อคณะกรรมการตัดสินใจที่จะเริ่มยกเลิกการผ่อนคลายด้านนโยบาย ก็จะใช้วิธีการที่มีความสมดุล ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวว่าด้วยการจ้างงานในระดับสูงสุดและเงินเฟ้อที่ 2% โดยในปัจจุบันนี้ คณะกรรมการคาดว่า แม้ว่าหลังจากการจ้างงานและเงินเฟ้อปรับตัวใกล้ระดับที่สอดคล้องกับเป้าหมายหลักแล้ว แต่ภาวะเศรษฐกิจอาจจะเป็นเหตุผลในการคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ต่ำกว่าระดับที่คณะกรรมการมองว่าเป็นระดับปกติในระยะยาว ต่อไปสักระยะหนึ่ง

สำหรับผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ได้แก่ เจเน็ต แอล. เยลเลน ประธานเฟด, วิลเลียม ซี. ดัดลีย์ รองประธานเฟด, เลล เบรนาร์ด, สแตนลีย์ ฟิสเชอร์, ริชาร์ด ดับเบิลยู. ฟิชเชอร์, ลอเร็ตตา เจ. เมสเตอร์, ชาร์ลส์ ไอ. พลอสเซอร์,เจอโรม เอช. เพาเวล และ แดเนียล เค. ทารุลโล

ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายดังกล่าว คือ นารายานา โคเชอร์ลาโคตา ซึ่งเชื่อว่า หลังจากภาวะซบเซาอย่างต่อเนื่องของแนวโน้มเงินเฟ้อและการร่วงลงในช่วงที่ผ่านมาของมาตรวัดการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวที่อิงกับตลาด คณะกรรมการควรมีพันธสัญญาในการคงช่วงเป้าหมายปัจจุบันสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ต่อไปเป็นระยะเวลา 1-2 ปีเป็นอย่างน้อยที่สุด จนกว่าแนวโน้มเงินเฟ้อจะกลับมาสู่ระดับ 2% อีกครั้ง และควรดำเนินโครงการซื้อสินทรัพย์ที่ระดับปัจจุบันต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ