ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% เพื่อกระตุ้นการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะซบเซาอันเนื่องมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลง
รายงานการประชุมครั้งล่าสุดระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลียยังคงมีพันธสัญญาที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับ "ช่วงเวลาของความมีเสถียรภาพของอัตราดอกเบี้ย"
คณะกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตถึงการร่วงลงอย่างหนักของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะแร่เหล็กและน้ำมัน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการมองว่าการร่วงลงของราคาน้ำมันน่าจะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ส่วนประเด็นภายในประเทศนั้น ธนาคารกลางออสเตรเลียคาดการณ์ว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่จะลดลงอย่างหนัก แต่ก็มีสัญญาณบ่งชี้ด้วยว่า การลงทุนในธุรกิจนอกกลุ่มเหมืองจะขยายตัวขึ้น ขณะที่การบริโภคของภาคครัวเรือนก็มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลียยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย แม้ว่ามีการอ่อนค่าลงเมื่อเร็วๆนี้
"ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับที่มีการประเมินไว้เป็นส่วนใหญ่ตามปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการร่วงลงอย่างหนักของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญๆในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา" รายงานการประชุมของธนาคารกลางระบุ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเกลน สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียได้แสดงความเห็นว่า ดอลลาร์ออสเตรเลียควรมีมูลค่า 75 เซนต์สหรัฐ เมื่อเทียบกับระดับปัจจุบันที่ 82 เซนต์สหรัฐ