แถลงการณ์ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐเดือนม.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 29, 2015 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อคืนนี้ว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนธ.ค.บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่ง ภาวะตลาดแรงงานได้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งและอัตราว่างงานลดต่ำลง เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว ปัจจัยชี้วัดต่างๆเกี่ยวกับตลาดแรงงานบ่งชี้ว่าภาวะการใช้ประโยชน์ในระดับต่ำเกินไปจากทรัพยากรด้านแรงงานนั้น ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง การใช้จ่ายภาคครัวเรือนกำลังเพิ่มขึ้นปานกลาง โดยการปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมาของราคาพลังงานได้หนุนกำลังซื้อของภาคครัวเรือน การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจกำลังปรับตัวดีขึ้น ขณะที่การฟื้นตัวในภาคที่อยู่อาศัยยังคงชะลอลง เงินเฟ้อได้ปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวของคณะกรรมการต่อไป ซึ่งส่วนหนึ่งสะท้อนถึงการร่วงลงของราคาพลังงาน มาตรวัดการชดเชยเงินเฟ้อที่อิงกับตลาดได้ลดลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่มาตรวัดการคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวที่อิงกับผลสำรวจยังคงทรงตัว

คณะกรรมการ FOMC พยายามที่จะสนับสนุนการจ้างงานในระดับสูงสุดและความมีเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งสอดคล้องกับขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเฟด คณะกรรมการคาดว่า ด้วยการผ่อนคลายนโยบายอย่างเหมาะสม กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะขยายตัวในอัตราปานกลาง โดยปัจจัยชี้วัดตลาดแรงงานกำลังปรับตัวใกล้ระดับที่คณะกรรมการพิจารณาว่าสอดคล้องกับเป้าหมายหลัก 2 ประการของเฟด คณะกรรมการยังคงเล็งเห็นถึงความเสี่ยงต่อแนวโน้มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน ซึ่งเกือบจะมีความสมดุล โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นต่อไปในระยะใกล้ แต่คณะกรรมการคาดกว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่ระดับ 2% ในระยะกลาง ขณะที่ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และผลกระทบชั่วคราวจากการปรับตัวลงของราคาพลังงานและปัจจัยอื่นๆ ค่อยๆลดน้อยลง คณะกรรมการจะยังคงจับตาดูความคืบหน้าด้านเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด

ในส่วนของการสนับสนุนให้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องสู่การจ้างงานสูงสุดและความมีเสถียรภาพด้านราคานั้น คณะกรรมการได้ยืนยันอีกครั้งในวันนี้ถึงมุมมองที่ว่า ช่วงเป้าหมายในปัจจุบันของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ที่ 0-0.25% นั้น ยังคงมีความเหมาะสม และในการที่จะตัดสินใจว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ช่วงเป้าหมายนี้ต่อไปนานเพียงใดนั้น คณะกรรมการจะประเมินความคืบหน้าสู่เป้าหมายของการจ้างงานในระดับสูงสุดและเงินเฟ้อที่ 2% ทั้งในแง่ความเป็นจริงและคาดการณ์ การประเมินนี้จะพิจารณาข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงการประเมินภาวะตลาดแรงงาน, ปัจจัยชี้วัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อ ตลอดจนการพิจารณาถึงความคืบหน้าทางการเงินต่างๆ เมื่ออิงกับการประเมินในปัจจุบัน คณะกรรมการพิจารณาว่าเฟดสามารถอดทนรอได้ในการเริ่มปรับท่าทีด้านนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลที่กำลังจะมีการเปิดเผยบ่งชี้ถึงความคืบหน้าสู่วัตถุประสงค์ด้านการจ้างงานและด้านเงินเฟ้อของคณะกรรมการในอัตรารวดเร็วกว่าที่คณะกรรมการคาดการณ์ในขณะนี้ การปรับเพิ่มช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นก็มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดกันไว้ในปัจจุบัน แต่ในทางกลับกัน หากความคืบหน้ามีความล่าช้ากว่าที่คาด การปรับเพิ่มช่วงเป้าหมายดังกล่าวก็มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน

คณะกรรมการยังคงดำเนินนโยบายที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อไปในการนำเงินต้นที่ได้รับจากการถือครองตราสารหนี้ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ไปลงทุนใหม่ใน MBS ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และเข้าซื้อพันธบัตรชุดใหม่เมื่อพันธบัตรเดิมครบกำหนดไถ่ถอนในการประมูล นโยบายนี้ ซึ่งคณะกรรมการจะยังคงถือครองหลักทรัพย์ในระยะยาวขึ้นเป็นจำนวนมาก น่าจะยังคงช่วยให้ภาวะทางการเงินมีความเหมาะสม

เมื่อคณะกรรมการตัดสินใจที่จะเริ่มยกเลิกการผ่อนคลายด้านนโยบาย ก็จะใช้วิธีการที่มีความสมดุล ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวว่าด้วยการจ้างงานในระดับสูงสุดและเงินเฟ้อที่ 2% โดยในปัจจุบันนี้ คณะกรรมการคาดว่า แม้ว่าหลังจากการจ้างงานและเงินเฟ้อปรับตัวใกล้ระดับที่สอดคล้องกับเป้าหมายหลักแล้ว แต่ภาวะเศรษฐกิจอาจจะเป็นเหตุผลที่สนับสนุนให้คงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ต่ำกว่าระดับที่คณะกรรมการมองว่าเป็นระดับปกติในระยะยาว ต่อไปสักระยะหนึ่ง

ผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ได้แก่ เจเน็ต แอล. เยลเลน ประธานเฟด, วิลเลียม ซี. ดัดลีย์ รองประธานเฟด, เลล เบรนาร์ด, ชาร์ลส์ แอล. อีแวนส์, สแตนลีย์ ฟิสเชอร์, เจฟฟรีย์ เอ็ม. แล็คเกอร์, เดนนิส พี. ล็อคฮาร์ท, เจอโรม เอช. เพาเวล, แดเนียล เค. ทารุลโล และ จอห์น ซี. วิลเลียมส์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ