ทั้งนี้ ECB ระบุก่อนหน้านี้ว่า จะซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า โดยเริ่มต้นในเดือนมี.ค. คิดเป็นวงเงินรวม 1.1 ล้านล้านยูโร ซึ่งมีเป้าหมายที่จะอัดฉีดเม็ดเงินใหม่ๆเข้าสู่เศรษฐกิจของประเทศยูโรโซนที่กำลังซบเซาลง และจัดการกับภาวะเงินฝืดและอัตราว่างงานในยูโรโซนที่อยู่ในระดับสูงถึง 11% โดย ECB จะซื้อพันธบัตรดังกล่าวจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% ในระยะกลาง ขณะที่ ECB จะซื้อพันธบัตรของรัฐบาลหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงกรีซ
อย่างไรก็ดี นายดรากีเปิดช่องสำหรับ ECB ที่จะซื้อพันธบัตรต่อไปเกินกว่าเดือนก.ย.ปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำหนดไว้เดิม โดยเขากล่าวในวันนี้ว่า ECB จะซื้อพันธบัตรถึงเดือนก.ย.ปีหน้า หรือจนกว่าอัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% ของ ECB
นอกจากนี้ นายดรากียังระบุว่า ECB จะเข้าซื้อพันธบัตรที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำกว่า 0% หรือมีอัตราติดลบ แต่ต้องไม่ต่ำกว่าระดับ -0.2% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของ ECB โดยหวังว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืด
ECB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.05% ตามคาดในวันนี้
นอกจากนี้ ECB ยังประกาศเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในวันนี้ แต่ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสู่ระดับ 0% ในปีนี้ ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลงในปีที่แล้ว และการอ่อนค่าของยูโร
ทั้งนี้ ECB คาดว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนจะเติบโต 1.5% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ที่ระดับ 1.0% ในเดือนธ.ค. หลังจากขยายตัว 0.9% ในปีที่แล้ว ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจจะดีดตัว 1.9% ในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์เดิมเช่นกัน และแตะ 2.1% ในปี 2017
นอกจากนี้ ECB ยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสู่ระดับ 0% ในปีนี้ จากระดับ 0.7% ที่คาดการณ์ในเดือนธ.ค. และคาดว่าจะแตะ 1.5% ในปีหน้า เพิ่มขึ้นจาก 1.3% ที่คาดการณ์ในเดือนธ.ค. ขณะที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.8% ในปี 2017 ใกล้เคียงระดับเป้าหมายที่ 2% ของ ECB