นายโจวกล่าวว่า แม้ว่าธนาคารกลางจีนยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบรัดกุม แต่ก็จะเร่งดำเนินการปฏิรูปและการเปิดกว้างตลาดทุน พร้อมกับกล่าวว่า ในปีสุดท้ายของแผนระยะ 5 ปี ฉบับที่ 12 นั้น ธนาคารกลางจีนพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายการเปิดเสรีบัญชีทุน (Capital Account Convertibility : CAC) สกุลเงินหยวน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า สิ่งแรกที่ธนาคารกลางจีนตั้งใจจะทำก็คือ การทำให้นักลงทุนชาวจีนสามารถเข้าไปลงทุนในต่างประเทศและนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในจีนได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ จีนยังมีการเตรียมพร้อมเพื่อการปฏิรูประบบการอนุมัติการกำกับดูแลการลงทุนของชาวจีนในตลาดหลักทรัพย์ ผลิตภัณฑ์ด้านการเงินในต่างประเทศ พร้อมทั้งจะเปิดเผยนโยบายต่างๆและมาตรการนำร่อง เพื่อช่วยให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินของจีนได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในส่วนของนโยบายการเงินนั้น นายโจวกล่าวว่า นโยบายการเงินของจีนจะยังคงเป็นในลักษณะรัดกุม แม้ว่าธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็ตาม
ทั้งนี้ การปรับลดอัตราส่วน RRR และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนพ.ย.ปีที่แล้วนั้น ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ที่ว่า นโยบายการเงินของจีนจะถูกเปลี่ยนจากการ "รัดกุม" ไปเป็น "ผ่อนคลาย" เนื่องจากเศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลง
อย่างไรก็ตาม นายโจวย้ำว่า "เมื่อพิจารณาจากการขยายตัวอันรวดเร็วของสินเชื่อแล้ว ทางธนาคารกลางจึงเล็งเห็นว่าควรจะใช้นโยบายการเงินแบบรัดกุมต่อไป ซึ่งนโยบายการเงินที่รัดกุมภายใต้ระบบเศรษฐกิจแบบ "ดุลยภาพใหม่" ของจีนนั้น ควรจะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง สำนักข่าวซินหัวรายงาน