ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ ตัดสินใจที่จะยังคงดำเนินนโยบายในการเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 80 ล้านล้านเยนต่อปี ผ่านการซื้อสินทรัพย์มูลค่ามหาศาล
รายงานระบุว่า นายทาคาฮิเดะ คิอูชิ ซึ่งเป็นสมาชิก BOJ เพียงรายเดียวที่คัดค้านการตัดสินใจดังกล่าวนั้น ได้เสนอให้มีการชะลออัตราการเพิ่มฐานเงินลงเหลือ 45 ล้านล้านเยนต่อปี แต่เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมได้คว่ำข้อเสนอดังกล่าว
นอกจากนี้ BOJ เชื่อว่าการที่บริษัทจำนวนมากได้ปรับขึ้นค่าแรงหลังการเจรจาประเด็นค่าแรงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีแนวโน้มจะกระตุ้นการใช้จ่ายส่วนบุคคลและหนุนเศรษฐกิจ ซึ่งจะให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่การปรับตัวลงของราคาน้ำมันส่งผลจะกระทบน้อยลงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่คาดว่า ในการรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจรอบครึ่งปีซึ่งจะมีการเผยแพร่ในช่วงต่อไปของวันนี้ BOJ อาจจะปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อสำหรับปีงบการเงินปัจจุบันที่จะสิ้นสุดเดือนมี.ค.ปีหน้า ลงต่ำกว่าระดับ 1.0% ที่ประเมินไว้เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
แหล่งงข่าวระบุว่า แม้มีความเป็นไปได้ว่า BOJ จะปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อลง แต่ก็คาดว่า BOJ จะยังคงมั่นในพันธสัญยาที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ในระยะเวลาราว 2 ปี ขณะที่แนวโน้มของเงินเฟ้อยังคงเป็นปกติ นักลงทุนจับตาดูนายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการ BOJ ซึ่งจะจัดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในช่วงเวลาต่อไปของวันนี้