คณะกรรมการ FOMC ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ในการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุม เฟดได้ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับใกล้ 0% ยังคงมีความเหมาะสม และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีความเหมาะสมก็ต่อเมื่อตลาดแรงงานมีการปรับตัวที่ดีขึ้นต่อไป และมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้น
ขณะเดียวกัน เฟดแสดงความพอใจต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ได้หดตัวลงในไตรมาสแรก โดยเฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวปานกลาง หลังจากที่ประสบภาวะชะงักงันในฤดูหนาว และมีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี ส่วนการจ้างงานได้เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการว่างงานยังคงทรงตัว และการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ปรับตัวขึ้นปานกลาง และตลาดที่อยู่อาศัยได้ฟื้นตัวขึ้นบ้าง
ขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% นั้น เฟดก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่าราคาพลังงานมีเสถียรภาพ หลังจากที่ได้ฉุดให้อัตราเงินเฟ้อลดต่ำลงก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ เฟดยังได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ, อัตราดอกเบี้ย, อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโต 1.8%-2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 2.3%-2.7% และเฟดได้คงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2016 ที่ 2.4%-2.7% ขณะที่คาดว่าการขยายตัวในปี 2017 จะอยู่ที่ 2.1%-2.5%
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เฟด 15 จาก 17 รายยังคงระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนเท่ากับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นจำนวน 1 หรือ 2 ครั้งก่อนสิ้นปี แต่ในการคาดการณ์ครั้งก่อน เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
เจ้าหน้าที่เฟด 7 รายสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว หรือไม่มีการปรับขึ้นในปีนี้ ขณะที่ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปี 2016 และ 2017 ลง 0.25% ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐในระยะยาว และความสามารถในการรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
จากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดบ่งชี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ยังคงมีความเป็นไปได้ แต่เฟดยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความรวดเร็ว และความรุนแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
เฟดคงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในช่วงปลายปีนี้ที่ 0.625% ขณะที่ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2016 สู่ระดับ 1.625% จากเดิมที่ 1.875% และปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของปี 2017 สู่ 2.875% จาก 3.125%
ขณะเดียวกัน เฟดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ที่ระดับ 0.6%-0.8% ส่วนในปี 2016 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 1.6%-1.9% ขณะที่ปี 2017 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.9%-2.0%
นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานจะแตะ 5.2%-5.3% ในไตรมาส 4 ของปีนี้ เทียบตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 5.0%-5.2% และจะปรับตัวลงสู่ระดับ 4.9%-5.1% ในปี 2016