ส่วนเมื่อวานนี้ นายฟิชเชอร์กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ขณะนี้ นับว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดได้ว่า เฟดจะปรับขั้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี
นอกจากนี้ เขากล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เฟดมีแนวโน้มสูงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เมื่อจีนประกาศลดค่าเงินหยวนในวันที่ 11 ส.ค. ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นและการเงินทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก สิ่งนี้ได้ทำให้เฟดต้องพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้น
รองประธานเฟดยังระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวไปได้ดีในขณะนี้ และเฟดก็ยังมีเวลาอีกมากในการตัดสินใจก่อนที่จะถึงการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 16-17 ก.ย.
ทั้งนี้ การประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสันโฮลถือเป็นเหตุการณ์ที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ ท่ามกลางความคิดเห็นที่แตกต่างกันในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานประชุมเดือนก.ค.
สำหรับรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวันที่ 28-29 ก.ค. ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดส่วนใหญ่เชื่อว่าใกล้ถึงเวลาที่เฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงิน แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบหลายปี
รายงานการประชุมดังกล่าวส่งสัญญาณที่ไม่ชัดเจนในประเด็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินครั้งหน้าในเดือนก.ย.หรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่เฟดหลายราย ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้กล่าวย้ำว่ามีความเหมาะสมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนในตลาดคาดการณ์กันในวงกว้างว่าเดือนก.ย.หรือหลังจากนั้น เป็นช่วงเวลาที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด