การประชุมดังกล่าวจัดขึ้น หลังจากหุ้นจีนดิ่งลงอย่างหนัก ซึ่งส่งผลให้มีแรงเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลก และตลาดการเงินไร้เสถียรภาพ ท่ามกลงความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
ในการประชุมเดือนก.ย. BOJ ได้ปรับลดการประเมินเศรษฐกิจต่างประเทศ
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายมีความเห็นพ้องกันว่าเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ได้ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่บางรายชี้ถึงผลกระทบของเศรษฐกิจจีนที่ตกต่ำและการร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
สำหรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้น เจ้าหน้าที่ BOJ รายหนึ่งกล่าวว่าจะมีผลกระทบในด้านการค้า มากกว่าในด้านการเงิน
บรรดาเจ้าหน้าที่ BOJ ระบุว่า การส่งออกที่ซบเซาของญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ซึ่งได้ส่งผลให้การค้าและการผลิตทั่วโลกอยู่ภาวะชะงักงัน รวมทั้งอุปสงค์ที่อ่อนแอในด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศด้วย
ส่วนราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นที่ผันผวนอยู่ที่ราว 0% นั้น เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายบางรายระบุว่าเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งลง และไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเงินเฟ้อแต่อย่างใด