รายงานของธนาคารกลางระบุว่า ยอดเงินกู้ของภาคครัวเรือนจากสถาบันที่รับฝากเงิน ซึ่งรวมถึงธนาคารและสถาบันรับฝากเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.8 ล้านล้านวอน (8.5 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนส.ค. จากเดือนก่อน
ตัวเลขดังกล่าวเป็นยอดที่ปรับตัวขึ้นสูงที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากสถิติการขยายตัวสูงสุดที่ 10.1 ล้านล้านวอนในเดือนเม.ย.ปีนี้
แนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหนี้สินภาคครัวเรือนมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาของธนาคารกลาง โดยปรับลดลง 1% จากอัตราดอกเบี้ยเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดว่า เกาหลีใต้อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกรอบในเดือนพ.ย. เนื่องจากการส่งออก ซึ่งมีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจของประเทศ ได้หดตัวลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกันในเดือนก.ย.
โดยปกติ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เงินสกุลวอนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งช่วยกระตุ้นการส่งออก แต่อย่างไรก็ดี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบข้างเคียงหลายอย่าง เช่น การขยายตัวอย่างรวดเร็วของหนี้สินของภาคครัวเรือน สำนักข่าวซินหัวรายงาน