นายคุโนดะกล่าวกับผุ้บริหารธุรกิจในเมืองนาโงยาว่า "ในมุมมองของเรา สภาพแวดล้อมสำหรับการปรับขึ้นเงินเดือน เช่น ภาวะตึงตัวของตลาดแรงงานและผลกำไรที่อยู่ในระดับสูงขององค์กร ล้วนเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว"
"แต่อย่างไรก็ดี ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารของบริษัทและพนักงานว่าจะปรับขึ้นเงินเดือนให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% หรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 2% หากเราเดินหน้าไปตามแนวทางดังกล่าว" นายคุโรดะกล่าว
นายคุโรดะกล่าวว่า BOJ มีศักยภาพและความตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พร้อมกับเสริมว่า ธนาคารกลางจะปรับปรุงนโยบายการเงินโดยไม่ลังเล หากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีความจำเป็น
นายคุโรระบุว่า หากพิจารณาในเรื่องที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่กำลังเดินหน้าเพื่อผ่านพ้นภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่อง การปรับขึ้นเงินเดือนและการเพิ่มการลงทุนในทรัพย์สินถาวรเป็นเรื่องที่จำเป็นไม่เพียงแต่สำหรับเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเท่านั้นแต่ยังเพื่อภาคธุรกิจเองด้วย "การดำเนินการเดี๋ยวนี้เป็นเรื่องจำเป็นเป็นสำหรับภาคธุรกิจที่จะอยู่ในกลุ่มผู้ชนะในอนาคต"
ท่ามกลางสภาพความเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบัน หากไม่รวมไปถึงการปรับตัวลดลงของราคาพลังงานแล้ว แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายคุโรดะระบุ
ข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน และปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน แต่หากไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ค่าดัชนีจะปรับตัวขึ้น 0.7% สำนักข่าวเกียวโดรายงาน