ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า เธอมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวดีขึ้น แต่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ซบเซาได้ทำให้เฟดไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วต่อไปหลังจากนั้น
นอกจากนี้ นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวอย่างแข็งแกร่งตามที่มีการคาดการณ์กันไว้ ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณอีกครั้งหนึ่งถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
"ดิฉันมองว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเพียงพอในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าที่จะทำให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้นต่อไป" นางเยลเลนกล่าวในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสสหรัฐ
"การฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ประกอบกับการพิจารณาของดิฉันที่ว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทำให้ดิฉันมีความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่ระดับ 2% ขณะที่ผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อต่ำจากราคาน้ำมันและสินค้านำเข้าเริ่มเบาบางลง" ประธานเฟดกล่าว
การแถลงของนางเยลเลนครั้งล่าสุดนี้ มีเนื้อหาสอดคล้องกับที่ได้แถลงเมื่อวานนี้ ซึ่งนางเยลเลนส่งสัญญาณพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนนี้ โดยได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการว่างงานลดต่ำลง และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด
"ข้อมูลทางเศรษฐกิจและการเงินที่เราได้รับมานับตั้งแต่การประชุมในเดือนต.ค. มีความสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเราเกี่ยวกับการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน" นางเยลเลนกล่าว
"การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงานได้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับเป้าหมาย 2% ในระยะกลาง"
ทั้งนี้ เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 ธ.ค. ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ โดยหากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ออกมาแข็งแกร่ง ก็จะยิ่งทำให้เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น