เขากล่าวว่า นับตั้งแต่ที่ BOJ ประกาศใช้นโยบายดังกล่าว รัฐบาลจะร่วมมือกับ BOJ ในการดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัว และไม่กลับสู่ภาวะเงินฝืด
นายอิชิฮาราเสริมว่า ญี่ปุ่นยังคงมีความเสี่ยงที่จะกลับสู่ภาวะเงินฝืด ดังนั้นรัฐบาลจึงควรให้ความสำคัญต่อการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเพิ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ขณะที่มีการผ่านงบประมาณสำหรับปีงบประมาณหน้า
ทั้งนี้ BOJ เริ่มบังคับใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะจัดการกับภาวะเงินฝืด ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงในช่วงขาลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติ 5-4 เสียงให้ใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ คือ -0.1% สำหรับสถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์ในประเทศที่นำเงินไปฝากไว้กับ BOJ โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.พ.เป็นต้นไป ซึ่งหมายความว่า ธนาคารพาณิชย์จะต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าฝากแก่ BOJ หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ BOJ โดยมาตรการของ BOJ ในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ BOJ และต้องการลดการออมของประชาชน เพื่อให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่อง