อย่างไรก็ดี นายคาร์นีย์ระบุว่า BoE จะไม่ทำการคาดการณ์แนวโน้มการลงประชามติ หรือผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ในกรณีที่ชาวอังกฤษลงประชามติสนับสนุนการถอนตัวออกจาก EU
นอกจากนี้ เขายังระบุว่า ค่าเงินปอนด์ที่มีความผันผวนในระยะนี้ เกิดจากความไม่แน่นอนต่อผลการลงประชามติ แต่ก็สอดคล้องกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงก่อนที่สก็อตแลนด์จะทำประชามติเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรในปี 2014
ทั้งนี้ค่าเงินปอนด์ร่วงลงในสัปดาห์นี้ จากการที่นักลงทุนวิตกต่อการที่อังกฤษอาจจะตัดสินใจออกจาก EU
ณ เวลา 18.33 น. ตามเวลาไทย ปอนด์อ่อนค่าลง 0.29% สู่ระดับ 1.4107 ดอลลาร์ หลังจากที่ดิ่งลง 1.4058 เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี
นายลุคแมน โอตูนูกา นักวิเคราะห์จาก FXTM Research กล่าวว่า ปอนด์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อไป ท่ามกลางความวิตกกังวลก่อนการทำประชามติเกี่ยวกับสมาชิกภาพของอังกฤษใน EU ในวันที่ 23 มิ.ย. ท่ามกลางความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจ หากอังกฤษตัดสินใจออกจาก EU
ผู้นำภาคธุรกิจของอังกฤษเกือบ 200 คนเรียกร้องให้อังกฤษยังคงอยู่ใน EU ต่อไป ขณะที่เตือนถึงความเสี่ยงต่อการลงทุน, การจ้างงาน และต่อเศรษฐกิจ หากอังกฤษตัดสินใจออกจาก EU
ทั้งนี้ ในจดหมายที่มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เดอะ ไทม์ส ผู้นำเหล่านี้ระบุว่า อังกฤษจะแข็งแกร่งขึ้น ปลอดภัยขึ้น หากยังคงอยู่ใน EU ขณะที่ภาคธุรกิจจำเป็นที่จะต้องสามารถเข้าสู่ตลาดยุโรปโดยไม่มีข้อจำกัดเพื่อให้สามารถเติบโตและมีการลงทุน
ผู้นำของบริษัทที่ลงนามในจดหมายดังกล่าวได้รวมถึงบีพี และรอยัล ดัชท์ เชลล์
จดหมายจากภาคธุรกิจฉบับนี้มีขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนจุดยืนของนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
ก่อนหน้านี้ นายคาเมรอนเปิดเผยว่า การจัดทำประชามติดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย.ทั่วประเทศ
นายคาเมรอนกล่าวภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเรื่องการเสนอให้อังกฤษยังคงเป็นสมาชิกใน EU ว่า เขาเชื่อว่าอังกฤษจะมีความปลอดภัยและแข็งแกร่งมากขึ้นใน EU ที่ได้มีการปฏิรูปแล้ว
อย่างไรก็ดี นายบอริส จอห์นสัน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว ประกาศสนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจาก EU ในการลงประชามติทั่วประเทศ