อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่ามีผลกระทบเพิ่มมากขึ้นจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงและดอลลาร์ที่แข็งค่า ซึ่งส่งผลให้ภาคส่วนต่างๆมีการปรับตัวในทิศทางที่แตกต่างกัน
Beige Book ระบุว่าภาวะทางธุรกิจมีการปรับตัวขึ้นปานกลางในพื้นที่ส่วนใหญ่ ขณะที่กิจกรรมทางธุรกิจในนิวยอร์กและดัลลัสอยู่ในระดับทรงตัว ส่วนแคนซัส ซิตี้ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของราคาพลังงานและสินค้าเกษตร
ภาคการผลิตกำลังได้รับผลกระทบจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อการส่งออกของสหรัฐ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่อ่อนแอลงในตลาดสำคัญๆ เช่น ยุโรปและจีน โดยกลุ่มผู้ผลิตระบุถึงอุปสงค์ที่ลดลง อันเนื่องมาจากธุรกิจพลังงานที่ย่ำแย่
ขณะเดียวกัน บรรดาเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีแนวโน้มจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ เนื่องจากต้องการประเมินว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง ภาวะทางการเงินที่ตึงตัวและคาดการณ์เงินเฟ้อที่จะลดลงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ รายงาน Beige Book อิงกับข้อมูลเศรษฐกิจจากธนาคารภูมิภาค 12 แห่งของเฟด โดยจะมีการเปิดเผยปีละ 8 ครั้งเพื่อแสดงถึงภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐ และจะมีการอัพเดทข้อมูลราว 2 สัปดาห์ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายของเฟดในแต่ละครั้ง
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีกำหนดจะประชุมกันครั้งต่อไปในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้