คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 9-1 ในการประชุมเมื่อวานนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์กันไว้ โดยได้ระบุถึงความเสี่ยงในเศรษฐกิจโลก หลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2006
ทั้งนี้ คณะกรรมการเฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 2 ครั้งในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้ง
การลดคาดการณ์จำนวนครั้งของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ บ่งชี้ว่าเฟดมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการขยายตัวที่อ่อนแอในต่างประเทศ และตลาดการเงินที่ผันผวน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสำหรับปี 2016-2018 โดยได้ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลง 0.50% สู่ระดับ 0.88% ส่วนในปี 2017 ได้ปรับลดลง 0.50% สู่ระดับ 1.88% ขณะที่ปี 2018 ปรับลดลง 0.38% สู่ระดับ 3.00% ส่วนอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวมีการปรับลดลง 0.25% สู่ระดับ 3.25%