นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวในวันนี้ว่า เขาจะใช้เครื่องมือทางการเงินทั้งหมดนานเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน
เขายังระบุว่า นโยบายของ ECB กำลังบังเกิดผล ซึ่งช่วยหนุนค่าเงินยูโร
ขณะเดียวกัน นายดรากีเรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศต่างๆในยูโรโซนช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคให้แข็งแกร่งขึ้น ผ่านทางนโยบายการคลัง และการปฏิรูป
อย่างไรก็ดี นายดรากียืนยันว่า ECB ยังไม่ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับการแจกเงินโดยตรงแก่ประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ประธาน ECB ยังได้เน้นย้ำถึงความเป็นอิสระของธนาคารกลาง โดยชี้ว่าความเป็นอิสระดังกล่าวมีการระบุอยู่ในสนธิสัญญาของสหภาพยุโรป (EU)
เขากล่าวว่า ECB จะรักษาเสถียรภาพของราคาในทั่วทั้งยูโรโซน ไม่เพียงแต่ในเยอรมนี
นายดรากีกล่าว หลังนายวูล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนี ออกมาโจมตีนโยบายของ ECB โดยอ้างว่า นโยบายดังกล่าวสร้างปัญหาต่อเยอรมนี
นายดรากีระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายของ ECB ที่ระดับใกล้ 2% โดยเศรษฐกิจของยูโรโซนยังคงเผชิญความเสี่ยงภายนอก และยูโรโซนจะอยู่ในภาวะย่ำแย่กว่านี้ หาก ECB ไม่ได้ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ พร้อมกับการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 1.7 ล้านล้านยูโรเข้าตลาด
เขาเสริมว่า ECB จะเข้าซื้อตราสารหนี้ของภาคเอกชนตามนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนมิ.ย.นี้
ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB
นอกจากนี้ ECB ยังได้คงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน