นายทาเคฮิโร ซาโตะ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้วิจารณษนโยบายดอกเบี้ยติดลบของแบงก์ชาติว่า ส่งผลให้เกิดภาวะการเงินที่ตึงตัว ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นลดลงตามไปด้วย
นายซาโตะ กล่าวว่า "ในอนาคต นโยบายนี้อาจกระตุ้นให้สถาบันการเงินต่างๆจำกัดการปล่อยกู้แก่ผู้ขอกู้ และอาจมีการปรับเพิ่มต้นทุนด้านสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แก่บริษัทที่เข้าถึงแหล่งเงินลำบาก"
หลังแบงก์ชาติได้ประกาศนโยบายดอกเบี้ยติดลบเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นก็ได้ร่วงลงอย่างหนักส่วนเงินเยนก็แข็งค่าขึ้น ขณะที่ยอดสั่งจองผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความปลอดภัย เช่น กองทุนตลาดเงิน และพันธบัตรรัฐบาลระยะกลางนั้นก็หยุดชะงัก
นายซาโตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกบอร์ด BOJ จำนวน 4 รายที่คัดค้านการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบนั้น ได้เตือนว่ามาตรการดังกล่าวทำให้สื่อกลางทางการเงินทำงานอ่อนแรงลง และอาจส่งผลกระทบต่อความยืดหยุ่นของระบบการเงิน ในการรับมือกับเหตุการณ์ผันผวนในช่วงเวลาที่ตึงเครียด
สำหรับเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ของแบงก์ชาติญี่ปุ่นในช่วงเวลาประมาณ 2 ปีหลังจากที่ได้กำหนดไว้เมื่อปี 2556 นั้น นายซาโตะมองว่า เป้าหมายดังกล่าว "ไม่มีความจำเป็น" ที่จะต้องทำให้ได้ "ในทุกกรณี" เนื่องจากประชาชนไม่ได้คาดหวังให้เกิดเงินเฟ้อหากรายได้ไม่ขยายตัวตามไปด้วย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน