รายงานผลการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือนมิ.ย.ซึ่งเปิดเผยในวันนี้บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินรายหนึ่งของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า BOJ จำเป็นต้องใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อตอกย้ำต่อสาธารณชนถึงพันธกิจของ BOJ ในการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2%
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่รายหนึ่งได้เรียกร้องให้ BOJ เลื่อนกรอบเวลาของนโยบายในปัจจุบันจากการบรรลุเป้าหมายในระยะสั้นเป็น "เหมาะสมสำหรับช่วงเวลาที่ยาวนาน"
ที่ประชุมเมื่อวันที่ 15-16 มิ.ย. มีมติไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม แม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคได้ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเม.ย.
การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้เงินเยนปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นปิดตลาดร่วงลงภายหลังการประกาศการตัดสินใจดังกล่าว
"มีสัญญาณบ่งชี้ว่าต้องใช้ความระมัดระวังในการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุ โดยอ้างถึงแนวโน้มการปรับตัวลดลงของดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานและดัชนีการคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ
เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุว่า หากแนวโน้มช่วงเวลาในการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ต้องเลื่อนออกไป BOJ จะต้องเน้นย้ำถึงพันธกิจของธนาคารในการบรรลุเป้าหมายต่อสาธารณชนและตลาดด้วยการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม สำนักข่าวเกียวโดรายงาน