ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) สร้างความประหลาดในต่อตลาดในวันนี้ ด้วยการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
การประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ เป็นการประชุมครั้งแรกของ BoE หลังการลงประชามติในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.เพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
หาก BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ จะเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปี นับตั้งแต่ที่ BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% จากระดับ 1.00% สู่ระดับ 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค.2009
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า BoE จะรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขึ้นมาใหม่ หลังจากที่ BoE อนุมัติโครงการดังกล่าวในวงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ในปี 2009 ท่ามกลางวิกฤตการเงินทั่วโลกในขณะนั้น และได้ปิดโครงการดังกล่าวในปี 2012
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า โครงการ QE ที่ BoE เปิดขึ้นใหม่อาจมีวงเงิน 5 หมื่นล้านปอนด์ โดยอาจประกาศให้เริ่มมีผลในเดือนนี้ หรือเดือนส.ค.
นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE ระบุก่อนหน้านี้ว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น หลังจากที่อังกฤษตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป บ่งชี้ว่า BoE มีแนวโน้มที่จะต้องออกมาตรการกระตุ้นทางการเงินในฤดูร้อนนี้
นายคาร์นีย์กล่าวว่า "แนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง ทำให้ BoE มีแนวโน้มที่จะต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินในฤดูร้อนนี้"
ทั้งนี้ การส่งสัญญาณดังกล่าวของนายคาร์นีย์ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BoE อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ หรืออาจอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการเงิน