คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 9-1 ในการประชุมวันนี้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ขณะที่เฟดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และระบุย้ำว่าจะยังคงจับตาสิ่งบ่งชี้เงินเฟ้อ รวมทั้งพัฒนาการทางการเงิน และเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดต่อไป
"ความเสี่ยงในระยะใกล้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจได้ลดน้อยลง" แถลงการณ์ระบุ ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ไม่ได้ปรากฎในแถลงการณ์เดือนที่แล้ว และเป็นการเปิดช่องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ขณะเดียวกัน เฟดระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ขยายตัวในระดับปานกลาง
เฟดระบุว่า ตลาดแรงงานได้แข็งแกร่งขึ้นในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ปรับต่ออ่อนแอในเดือนพ.ค. และสิ่งบ่งชี้อื่นๆได้แสดงถึงการขยายตัวของการจ้างงาน
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า เงินเฟ้อยังคงซบเซา และจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในระยะใกล้ แต่จะปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในระยะกลาง
แถลงการณ์เฟดยังระบุว่า "การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนได้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ดีกว่าในเดือนมิ.ย. แต่ก็ระบุว่าการลงทุนในภาคธุรกิจยังคงอ่อนแอ
นางเอสเธอร์ จอร์จ เป็นกรรมการ FOMC เพียงรายเดียวที่ได้ลงมติให้เฟดปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.50-0.75% ในการประชุมครั้งนี้