ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดในวันนี้
ขณะนี้ ตลาดคาดว่าเฟดมีแนวโน้ม 46% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ เมื่อเทียบกับระดับ 34% ก่อนการเปิดเผยรายงานการจ้างงาน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า เฟดจะจับตาปัจจัยจากต่างประเทศเช่นกัน ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเฟดเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 255,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากทะยานขึ้น 287,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.8%
ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 217,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 38,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 24,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 11,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 292,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 287,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ได้เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค.
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 62.8%