ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค. เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากมุมมองที่ต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนมองว่า เฟดควรจะรอให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่กรรมการอีกส่วนหนึ่งมองว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐจะสามารถปรับตัวรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
"สมาชิกคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะเปิดกว้างทางเลือกด้านนโยบาย และยังคงมีความยืดหยุ่นต่อการปรับนโยบาย โดยพิจารณาจากข้อมูลที่ได้รับและการประเมินแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจของคณะกรรมการเฟด" รายงานการประชุมระบุ
รายงานการประชุมเดือนก.ค.ยังระบุด้วยว่า โดยทั่วไปแล้ว เจ้าหน้าที่เฟดมีความเห็นตรงกันว่าความเสี่ยงระยะสั้นที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐนั้น ได้ลดน้อยลงแล้ว เนื่องจากตลาดการเงินและตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เฟดบางคนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทั่วโลกในระยะยาว อันเนื่องมาจากผลกระทบของการที่อังกฤษลงมติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ส่วนแนวโน้มด้านเงินเฟ้อนั้น เจ้าหน้าที่เฟดบางคนมองว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานได้ปรับตัวขึ้นในปีที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกบางส่วนได้ระบุถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ