ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 21 ก.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า ที่ประชุมมองว่าการที่อังกฤษลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ได้ส่งผลกระทบจำกัดอยู่แต่ในอังกฤษ โดยไม่ได้ลุกลามในวงกว้าง แม้ยังคงมีความไม่แน่นอนที่ว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในอนาคตหรือไม่
ทั้งนี้ ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 21 ก.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของ ECB หลังจากที่อังกฤษจัดทำประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB
นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน
นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวว่า ECB มีความพร้อมที่จะใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาด ขณะที่ ECB จะรอดูข้อมูลเศรษฐกิจมากขึ้นในปีนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ทั้งนี้ โครงการซื้อพันธบัตรจำนวน 8 หมื่นล้านยูโร/เดือนมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมี.ค.2017