นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า เฟดได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเกินไปเพื่อเหตุผลทางการเมือง โดยนางเยลเลนยืนยันว่า เฟดไม่ได้มีการกล่าวถึงประเด็นทางการเมืองในการประชุมนโยบาย มีเพียงปัจจัยทางเศรษฐกิจเท่านั้นที่มีผลต่อการตัดสินใจของเฟดในประเด็นนโยบายการเงิน
นางเยลเลน เปิดเผยว่า เฟดมีความประสงค์เพื่อหานโยบายที่ดีที่สุดในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา ส่งเสริมการจ้างงาน และควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน เคยกล่าวหานางเจเน็ต เยลเลนว่ากำลังพยายามผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐให้เดินหน้าต่อไปเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อประธานาธิบดีบารัค โอบามา แม้ว่านางเยลเลนจะไม่ได้เอ่ยชื่อนายทรัมป์ออกมาตรงๆก็ตาม
สำหรับผลการประชุมล่าสุดของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดเมื่อวานนี้ เฟดมีมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 7 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
แม้เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ แต่แถลงการณ์ของเฟดได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี
แถลงการณ์เฟดระบุว่า "ปัจจัยสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้มีน้ำหนักมากขึ้น"
นอกจากนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวหลังสิ้นสุดการประชุมเมื่อวานนี้ว่า ตนคาดหวังที่จะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ โดยเฟดยังเหลือการประชุมอีก 2 ครั้งในปีนี้ คือวันที่ 1-2 พ.ย. และ 13-14 ธ.ค.