ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อในวันนี้ หลังปอนด์ได้ดิ่งลงจากการทำประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ทั้งนี้ BoE ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษในปีนี้ สู่ระดับ 2.2% เพิ่มขึ้น 0.2% จากการประเมินในเดือนส.ค. และปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีของปี 2017 สู่ระดับ 1.4% เพิ่มขึ้น 0.6% จากการประเมินในเดือนส.ค. โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของครัวเรือน และตลาดที่อยู่อาศัยที่ฟื้นตัว
อย่างไรก็ดี BoE ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีในปี 2018 สู่ระดับ 1.5% จากเดิมที่คาดไว้ที่ระดับ 1.8% และปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยต่อคาดการณ์จีดีพีในปี 2019 สู่ระดับ 1.6%
นอกจากนี้ BoE ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในปี 2017 สู่ระดับ 2.7% เพิ่มขึ้น 0.7% จากการประเมินในเดือนส.ค. โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของปอนด์ หลังการทำประชามติ Brexit
BoE ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับสูงสุดที่ 2.7% ก่อนที่จะอ่อนตัวลงสู่ 2.5% ในปลายปี 2019 และเข้าใกล้ 2.0% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายของ BoE ในปี 2020
นอกจากนี้ ในวันนี้ BoE มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียง ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน
ขณะเดียวกัน BoE ยังได้ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์