ตลาดการเงินทั่วโลกจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์ว่า ประธานเฟดอาจส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ในวันที่ 14-15 มี.ค.
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นางเยลเลนอาจจะใช้โอกาสในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ เพื่อส่งสัญญาณให้ตลาดทราบถึงมุมมองของตน และอาจจะมีการส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
นอกจากนี้ นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมนโยบายการเงินสหรัฐ (USMPF) ที่นิวยอร์กซิตี้ ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐเช่นกัน
สำหรับปัจจัยล่าสุดที่สนับสนุนกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น มาจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2013
ขณะที่ดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญนั้น เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2012
นักวิเคราะห์ระบุว่า คำกล่าวของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจซึ่งคาดว่าจะขยายตัวราว 2% และอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 2% ในปีนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.ถือเป็นแนวคิดที่ดี
ด้านนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก และนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส ได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน โดยระบุว่า เฟดอาจจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่ล่าช้าเกินไปในการสกัดเงินเฟ้อ