นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวในวันนี้ว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 2 ครั้งในปีนี้ และดำเนินการเพื่อลดงบดุลบัญชีของเฟดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐใกล้แตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% และตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะใกล้มีการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ
"ผมคิดว่าเราควรรอดูว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวอย่างไรต่อไป โดยผมจะทำการประเมินภาวะเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตัดสินใจก่อนที่เราจะทำการประชุมครั้งต่อไป" เขากล่าว
ทั้งนี้ เฟดจะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 2-3 พ.ค.
"เรายังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งผมเห็นว่ามีความเหมาะสม" นายแคปแลนกล่าว
นายแคปแลนกล่าวต่อไปว่า "หากอัตราเงินเฟ้อดีดตัวเหนือระดับ 2% เป็นเวลาสั้นๆ ก็จะไม่กระตุ้นให้เฟดต้องรีบปรับขึ้นอัตราดอกบี้ย ถ้าหากการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นต่อเนื่องจนเป็นแนวโน้ม"
นายแคปแลนยังระบุว่า เขาจะยังไม่ให้ความสำคัญมากนักต่อผลกระทบจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เช่น การปฏิรูปภาษีซึ่งอาจกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จนกว่าเขาจะมีความมั่นใจว่ามาตรการเหล่านี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส และมีการผ่านออกมาเป็นกฎหมาย