นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมกัน 4 ครั้งในปีนี้ หากเศรษฐกิจยังคงปรากฏให้เห็นความแข็งแกร่ง ขณะที่เงินเฟ้อขยายตัวตามเป้า
อย่างไรก็ดี นายอีแวนส์ระบุว่า หากเศรษฐกิจส่งสัญญาณไม่แน่นอน ก็อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยแค่ 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่กระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่มองว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งนายอีแวนส์ก็มองว่ามีโอกาส แต่ต้องขอประเมินแนวโน้มให้มั่นใจก่อน
ก่อนหน้านี้ นายอีแวนส์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 2.0-2.5% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวในระยะยาว ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.75%
นอกจากนี้ เขายังคาดว่า อัตราว่างงานจะร่วงลงสู่ระดับ 4.25% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ต่ำกว่าระดับที่ยั่งยืนในระยะยาวที่ 4.7% และจะหนุนให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมายของเฟดที่ 2 % จากปัจจุบันที่ 1.7%
นายอีแวนส์ยังระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปของเฟดจะรุนแรงแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับภาวะเงินเฟ้อ และนโยบายการคลังของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม "The National Community Reinvestment Coalition Annual Conference" ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆก็มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้เช่นกัน ซึ่งรวมถึงนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้, นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส และนายเจย์ โพเวลล์ ผู้ว่าการเฟด