ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุเตือนว่า การที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะส่งผลให้รายได้ของภาคครัวเรือนลดลงเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆกำลังชะลอการลงทุน
นอกจากนี้ BoE ยังระบุว่า ภาคครัวเรือนจะถูกกดดันมากขึ้น จากการที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นในระยะใกล้มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ BoE ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรสู่ระดับ 1.9% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนก.พ.ที่ระดับ 2.0%
อย่างไรก็ดี BoE ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวในปีหน้าสู่ระดับ 1.7% จากเดิมที่ระดับ 1.6% และปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวในปี 2019 สู่ระดับ 1.8% จากเดิมที่ระดับ 1.7%
นอกจากนี้ BoE ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสหราชอาณาจักร สู่ระดับ 2.7% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนก.พ.ที่ระดับ 2.4%
ขณะเดียวกัน BoE คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับสูงสุดที่ 2.8% ในไตรมาสที่ 4 ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะแตะระดับสูงสุดในไตรมาส 2 ของปีหน้า
BoE ยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2018 และ 2019 สู่ระดับ 2.4% และ 2.2% ตามลำดับ จากก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.6% และ 2.4%
ทั้งนี้ BoE มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้ ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ BoE ยังมีมติด้วยคะแนนเสียง 8-0 เสียง ให้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์