นายไอแลน โกลด์ฟาจ์น ผู้ว่าการธนาคารกลางบราซิล กล่าวว่า บราซิลควรเดินหน้าทำการปฏิรูปเศรษฐกิจ ถึงแม้มีความไม่แน่นอนทางการเมืองเกิดขึ้น
นายโกลด์ฟาจ์นกล่าวย้ำว่า การตัดสินใจด้านนโยบายการเงินจะไม่ถูกกระทบโดยตรงจากข้อกล่าวหาคอรัปชั่นที่พัวพันกับนายมิเชล เตเมร์ ประธานาธิบดีบราซิล
ก่อนหน้านี้ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ออกแถลงการณ์ระบุว่า ข้อกล่าวหาคอรัปชั่นที่พัวพันกับนายเตเมร์ อาจส่งผลให้บราซิลถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ถ้าหากการปฏิรูปเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากกรณีอื้อฉาวดังกล่าว
"แรงผลักดันการปฏิรูปที่ชะงักลงซึ่งจะกระทบต่อการดำเนินการปฏิรูปด้านการคลัง จะส่งแรงกดดันเชิงลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของบราซิล" แถลงการณ์ระบุ
นอกจากนี้ นายอาเลจานโดร เวอร์เนอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการประเทศตะวันตกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้กล่าวว่า IMF จะจับตาความผันผวนทางการเมืองในบราซิล เพื่อตัดสินใจว่าจะทำการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเศรษฐกิจของบราซิลหรือไม่
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่มีรายงานว่า นายมิเชล เตเมร์ ประธานาธิบดีบราซิล ได้ให้การสนับสนุนต่อความพยายามที่จะมีการจ่ายเงินแก่พยานคนหนึ่งเพื่อปิดปากในการให้การคดีการให้สินบนครั้งใหญ่ที่สุดของบราซิล
ทั้งนี้ ศาลฎีกาของบราซิลได้เผยแพร่เทปบันทึกคำสนทนาระหว่างนายเตเมร์ และนายโฮสลีย์ บาติสตา เจ้าของบริษัท JBS ผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่ของบราซิล โดยทั้งสองได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการติดสินบนด้วยการจ่ายเงินให้กับนายเออดูร์โด คันฮา อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในขณะนี้ โดยเงินดังกล่าวจะเป็นหลักประกันว่า นายคันฮาจะไม่เปิดโปงประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับบริษัท JBS
นอกจากนี้ นายบาติสตายังได้กล่าวถึงนายเกดเดล เวอิรา ลิมา อดีตรัฐมนตรีซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างนายบาติสตาและนายเตเมร์ แต่ในระยะหลังการติดต่อกับนายลิมาเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากเขาถูกตรวจสอบ และได้ลาออกจากตำแหน่งไปในที่สุด
ในตอนหนึ่งของการบันทึกเสียงระบุว่า นายบาติสตาได้ขอให้ปธน.เตเมร์ หาคนกลางที่จะมาช่วยเจรจาแทนนายลิมา ซึ่งสามารถทำหน้าที่ดังกล่าวได้ ซึ่งปธน.เตเมร์ได้แนะนำนายโรดริโก ลอเรส ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยในเวลาต่อมา นายลอเรสได้ถูกถ่ายคลิปในขณะรับเงินสินบน 500,000 เรียล (ราว 148,000 ดอลลาร์สหรัฐ) จากนายบาติสตา