นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB ได้ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซน โดยอยู่ที่ระดับ 1.9% ในปีนี้, 1.8% ในปีหน้า และ 1.7% ในปี 2019 เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ ECB ยังระบุว่า ความเสี่ยงต่อแนวโน้มการขยายตัวในยูโรโซนอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสมดุล
ขณะเดียวกัน ECB ประกาศปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนสู่ระดับ 1.5% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.7% ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.3% จากเดิมที่ระดับ 1.6%
การปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนจุดยืนของ ECB ในการขยายเวลาในการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รวมทั้งจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB
การใช้มาตรการ QE ของ ECB มีเป้าหมายเพื่อผลักดันเงินเฟ้อในยูโรโซนให้เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.4% ในปัจจุบัน ไปสู่เป้าหมายของ ECB ซึ่งกำหนดให้อยู่ต่ำกว่า 2% เพียงเล็กน้อย
ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB
นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยจะคงวงเงินที่ระดับดังกล่าวไปจนถึงเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ดี ECB แถลงว่า อาจมีการขยายเวลาในการใช้มาตรการ QE เกินกว่าเดือนธ.ค.ปีนี้ หากมีความจำเป็น โดย ECB จะใช้มาตรการ QE ไปจนกระทั่งทิศทางของเงินเฟ้อมีความยั่งยืน