ตลาดการเงินจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ก็ตาม
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 138,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี จากระดับ 4.4% ในเดือนเม.ย.
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.4%
นักวิเคราะห์จากเฟดเดอรัล อินชัวร์ เครดิต ยูเนียนส์ ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ออกมาน้อยกว่าคาดการณ์ แต่ตลาดแรงงานของสหรัฐในขณะนี้ยังคงแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
ทางด้านนายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในช่วงสิ้นปีนี้ และเขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
นายฮาร์เกอร์ ซึ่งเป็นกรรมการเฟดที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงในคณะกรรมการ FOMC ในปีนี้ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ได้ปรับตัวอยู่ในภาวะปกติ ขณะที่แทบไม่มีภาวะเฉื่อยชาเกิดขึ้นในตลาดแรงงาน