แถลงการณ์ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐเดือนมิ.ย.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 15, 2017 08:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) ว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนพ.ค.บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นปานกลางตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ส่วนการจ้างงานแม้ปรับตัวขึ้นปานกลาง แต่เมื่อพิจารณาจากภาพรวมตั้งแต่ต้นปีแล้ว การจ้างงานยังนับว่าแข็งแกร่ง และอัตราว่างงานเริ่มปรับตัวลดลง ส่วนการใช้จ่ายภาคครัวเรือนฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง

ส่วนเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานั้น ปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมราคาพลังงานและอาหารนั้น ปรับตัวลงเช่นกัน โดยยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2% โดยข้อมูลที่ได้จากการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวบ่งชี้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย

คณะกรรมการ FOMC มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจ้างงานให้เติบโตอย่างเต็มที่และหนุนราคาให้มีเสถียรภาพ โดยคณะกรรมการ FOMC ยังคงคาดการณ์ว่า ด้วยการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะขยายตัวปานกลาง และภาวะในตลาดแรงงานจะยังคงมีความแข็งแกร่ง ส่วนเงินเฟ้อนั้น คาดว่าจะยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2% ในระยะใกล้นี้ แต่คาดว่าในระยะกลางนั้น เงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% ของคณะกรรมการ FOMC ขณะที่ความเสี่ยงในระยะใกล้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ อยู่ในระดับค่อนข้างสมดุล ทั้งนี้ คณะกรรมการ FOMC ยังคงจับตาสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด

เมื่อพิจารณาถึงภาวะตลาดแรงงานและเงินเฟ้อที่เป็นไปตามการคาดการณ์แล้ว คณะกรรมการได้ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ขณะที่จุดยืนด้านนโยบายการเงินนั้น ยังคงอยู่ในลักษณะผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการปรับตัวดีขึ้นต่อไปของภาวะตลาดแรงงานและการที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสู่ระดับ 2% อีกครั้ง

ในการตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาและขนาดในการปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคตนั้น ทางคณะกรรมการจะประเมินภาวะเศรษฐกิจทั้งในแง่ของความเป็นจริงและการคาดการณ์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเป้าหมายของการจ้างงานสูงสุดและเงินเฟ้อที่ 2% การประเมินนี้จะพิจารณาข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงมาตรวัดภาวะตลาดแรงงาน ปัจจัยชี้วัดเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและคาดการณ์เงินเฟ้อ และการพิจารณาถึงความคืบหน้าทางการเงินและสถานการณ์ในต่างประเทศ

คณะกรรมการจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับความคืบหน้าทั้งในแง่ความเป็นจริงและการคาดการณ์สู่เป้าหมายเงินเฟ้อ คณะกรรมการคาดว่าภาวะทางเศรษฐกิจจะปรับตัวในแนวทางที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะยังคงต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้ในระยะยาวต่อไปสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทิศทางที่แท้จริงของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจ ตามข้อมูลที่กำลังจะมีการเปิดเผยต่อไป

คณะกรรมการยังคงดำเนินนโยบายที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อไปในการนำเงินต้นที่ได้รับจากการถือครองตราสารหนี้ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ไปลงทุนใหม่ใน MBS ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และเข้าซื้อพันธบัตรชุดใหม่เมื่อพันธบัตรเดิมครบกำหนดไถ่ถอนในการประมูล โดยคณะกรรมการคาดว่าจะเริ่มดำเนินโครงการปรับงบดุลให้อยู่ในระดับปกติในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการพัฒนาไปทิศทางที่ดีเป็นวงกว้างตามความคาดหมาย โครงการดังกล่าว ซึ่งจะปรับลดการถือครองหลักทรัพย์ของเฟดอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยการลดการนำเงินต้นที่ได้รับจากการถือครองหลักทรัพย์เหล่านี้ไปซื้อพันธบัตรชุดใหม่เมื่อพันธบัตรเดิมครบกำหนดไถ่ถอนนั้น ได้ถูกระบุอยู่ในภาคผนวกในแผนงานและหลักการปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ ของคณะกรรมการ FOMC

กรรมการเฟดผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ได้แก่ เจเน็ต แอล. เยลเลน ประธานเฟด, วิลเลียม ซี. ดัดลีย์ รองประธานเฟด, ลาเอล เบรนาร์ด, ชาร์ลส์ อีแวนส์, สแตนลีย์ ฟิสเชอร์, แพทริค ฮาร์เกอร์, โรเบิร์ต เอส. แคปแลน และเจอโรม เอช. เพาเวล ส่วนกรรมการที่คัดค้านการดำเนินนโยบายคือ นีล คาชคารี โดยคาชคารีได้ออกเสียงสนับสนุนให้ FOMC คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมครั้งนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ