รายงานการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รอบวันที่ 26-27 เม.ย. ซึ่งได้มีการเผยแพร่ในวันนี้ ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ หลายคนมีความคิดเห็นตรงกันว่า การปรับตัวขึ้นของค่าแรงและเงินเฟ้อในญี่ปุ่นยัง"ค่อนข้างอ่อนแอ" แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้นก็ตาม
สถานการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ภารกิจของ BOJ ในการผลักดันญี่ปุ่นให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ไม่มีความคืบหน้า แม้ว่ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินอย่างหนักจะถูกดำเนินการไปแล้วก็ตาม โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสด พลิกขยายตัวในเดือนม.ค. แต่กระนั้นก็ยังคงใกล้ระดับ 0%
ถึงแม้กรรมการ BOJ บางส่วนระบุว่า การแข่งขันทางด้านราคาของเครือข่ายผู้ให้บริการมือถือเป็นปัจจัยที่ฉุดการปรับตัวขึ้นของดัชนี CPI พื้นฐาน แต่สมาชิกในที่ประชุมจำนวนมากแสดงความเห็นว่า หากไม่นับรวมปัจจัยดังกล่าว การปรับเพิ่มของค่าแรงและราคาถือว่าอ่อนตัวเมื่อเทียบกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจอื่นๆ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการ BOJ ได้ปรับลดแนวโน้มเงินเฟ้อของปีงบการคลัง 2560 สู่ระดับการขยายตัว 1.4% เมื่อเทียบรายปี จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.5%
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการ BOJ มีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยระบุว่า วัฏจักรเชิงบวกซึ่งนำโดยภาคการส่งออกและการผลิต "ค่อยๆแข็งแกร่งขึ้น" และตลาดแรงงานก็อยู่ในภาวะที่ตึงตัวอย่างคงที่