ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ประกาศเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจใน 5 เขต จากทั้งหมด 9 เขต เนื่องจากการส่งออกไปยังเอเชียแข็งแกร่ง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สาเหตุที่ทำให้แบงก์ชาติปรับเพิ่มการประเมินนั้น มาจากการที่ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ส่วนประกอบสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์การผลิต ปรากฎให้เห็นความต้องการแข็งแกร่งในจีน ไต้หวัน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นบางสาขายังรายงานว่า ภาคครัวเรือนญี่ปุ่นยังมีการซื้อของชิ้นใหญ่เพิ่มขึ้นด้วย เช่น รถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
"ผู้บริโภคที่คำนึงเรื่องงบประมาณเป็นหลักนั้นยังเปลี่ยนพฤติกรรมค่อนข้างช้า" เจ้าหน้าที่ BOJ รายหนึ่งกล่าว "การบริโภคยังไม่ได้อยู่ในระดับสูง แต่ก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นบ้างอย่างค่อยเป็นค่อยไป"
ส่วนเงินเฟ้อทั่วญี่ปุ่นยังคงปรับตัวขึ้นน้อย แม้ว่าทางแบงก์ชาติได้ใช้นโยบายผ่อนคลายเป็นพิเศษมานานกว่า 4 ปี โดยมาตรวัดเงินเฟ้อหลักอย่างดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดที่ผันผวนนั้น ขยายตัวเพียง 0.4% ในเดือนพ.ค. จากปีก่อนหน้านั้น
ตัวเลขดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันทั่วโลก ขณะที่บริษัทญี่ปุ่นยังคงไม่ต้องการปรับขึ้นราคาสินค้า เนื่องจากกลัวเสียลูกค้าเพราะคนกลุ่มนี้ยังไม่ต้องการเพิ่มการใช้จ่าย ในยุคที่ค่าจ้างเติบโตน้อยและความมั่นคงทางเงินยังน่าวิตก
เขตที่ได้รับการประเมินเศรษฐกิจของญี่ปุ่นทั้ง 9 เขตจากภาคเหนือถึงภาคใต้ ประกอบไปด้วย ฮอกไกโด โตโฮกุ โฮคุริกุ คันโต-โคชิเน็ทสี โตไก คินกิ ชูโกกุ ชิโกกุ และคิวชู-โอกินาวา
ทั้งนี้ BOJ จะเปิดเผยรายงาน "ซากุระ รีพอร์ต" หรือ รายงานเศรษฐกิจแยกตามภูมิภาค ภายหลังจากการประชุมของผู้จัดการสาขา BOJ เป็นประจำทุกไตรมาส โดยซากุระ รีพอร์ตของญี่ปุ่น เปรียบได้กับรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)