นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ทำการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ โดยกล่าวว่า ขณะที่เฟดจะปรับลดงบดุลจากจำนวน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบันนั้น แต่เฟดจะไม่ปรับวงเงินงบดุลสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤตการณ์ โดยเฟดจะปรับลดงบดุลในลักษณะที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน
นางเยลเลนคาดว่า การปรับลดงบดุลของเฟดจะทำให้อัตราดอกเบี้ยดีดตัวขึ้นในระยะยาว
นางเยลเลนระบุว่า นโยบายการคลังมีความไม่แน่นอนในระดับสูง ซึ่งถือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์แผนการใช้จ่ายของรัฐบาล
ประธานเฟดกล่าวว่า แผนการปฏิรูปภาษีเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายเช่นกัน และคาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิต หากมีการออกแบบมาเป็นอย่างดี
นางเยลเลนกล่าวเสริมว่า จะถือเป็นเรื่องท้าทายสำหรับสหรัฐที่จะมีการขยายตัว 3% ในช่วงหลายปีข้างหน้า
ส่วนในกรณีของธนาคารเวลส์ ฟาร์โกนั้น นางเยลเลนกล่าวว่า ตนพร้อมจะเข้าดำเนินการ หากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ เวลส์ ฟาร์โกยินยอมจ่ายเงินค่าปรับจำนวน 185 ล้านดอลลาร์ต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐจากการที่พนักงานธนาคารได้ทำการปลอมบัญชีลูกค้าจำนวนมากถึง 2.1 ล้านบัญชีเพื่อเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ด้านการเงินของธนาคาร
นางเยลเลนกล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
นอกจากนี้ นางเยลเลนยังกล่าวย้ำในการแถลงครั้งนี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นางเยลเลนระบุว่า ตนกำลังจับตาเงินเฟ้ออย่างระมัดระวัง และพิจารณาความเสี่ยงทั้ง 2 ด้าน
นางเยลเลนกล่าวว่าตนจะไม่ลดมาตรฐานด้านเงินทุนของธนาคารซึ่งมีความสำคัญต่อระบบ
นางเยลเลนกล่าวเสริมว่า การดำเนินการตามคำแนะนำบางส่วนของกระทรวงการคลังนั้น อาจเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน