ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ต้องการให้รอคอยจนถึงการประชุมนโยบายการเงินในครั้งหน้า ก่อนที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับลดงบดุลซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้อภิปรายเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ โดยเจ้าหน้าที่บางคนได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมกับแสดงความเห็นว่า เฟดควรรอคอยให้สถานการณ์เงินเฟ้อส่งสัญญาณดีขึ้น ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
นอกจากนี้ รายงานการประชุมเดือนก.ค.ยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2560 โดยส่วนใหญ่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2% ต่อไปอีกเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
สำหรับการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 25-26 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะเริ่มปรับงบดุลเข้าสู่ภาวะปกติ 'ในไม่ช้า' โดยขึ้นอยู่กับว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้หรือไม่
การปรับลดงบดุลของเฟด จะส่งผลให้เฟดลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ที่เฟดได้เข้าซื้อในตลาดในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2550 - 2552 เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในขณะนั้น
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อเฟดทำการลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และ MBS ตามเป้าที่วางไว้ จะส่งผลให้งบดุลของเฟดลดลงสู่ระดับ 2.0-2.5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์