นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวในวันนี้ว่า เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวมากขึ้น แต่เขาก็ได้เตือนเกี่ยวกับปัญหาด้านโครงสร้างประชากรที่จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เขายังระบุว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยุโรป และญี่ปุ่น ยังคงอยู่ในช่วงแรก เมื่อเทียบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
นายดรากียังกล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับการเพิ่มการขยายตัวของผลผลิตที่มีศักยภาพยังคงเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้น
"หากไม่มีการเติบโตอย่างมีศักยภาพมากขึ้น การฟื้นตัวทางวัฏจักรที่เราเห็นอยู่ทั่วโลกก็จะเข้าสู่ช่วงขาลง และส่งผลให้อัตราการขยายตัวได้ชะลอตัวลง"
"การขยายตัวที่ชะลอลงจะทำให้เป็นเรื่องยากมากขึ้นในการฝ่าฟันความท้าทายด้านหนี้สิน และโครงสร้างประชากรที่กำลังท้าทายประเทศที่มีเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว"
อย่างไรก็ดี ในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในคืนนี้ นายดรากีไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แต่อย่างใด หลังจากที่นักลงทุนคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า เขาอาจระบุถึงการปรับลดวงเงิน QE เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจยูโรโซนอาจมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะลดการพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่นายดรากีเคยใช้เวทีการประชุมเมืองแจ็กสัน โฮลในปี 2014 ในการวางรากฐานของการใช้นโยบาย QE ของ ECB
ก่อนหน้านี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจซึ่งจัดขึ้นที่เมืองลินเดา ประเทศเยอรมนี เมื่อวันพุธ นายดรากีกล่าวว่า นโยบายการเงินที่ดีต้องเป็นโยบายที่จัดเตรียมขึ้นเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ พร้อมระบุว่า งานวิจัยแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของมาตรการ QE และสัญญาณชี้นำล่วงหน้า (Forward Guidance) ที่ทางธนาคารได้นำมาใช้