นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กเมื่อวานนี้ โดยนายโรเซนเกรนได้สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจะไม่อยู่ในภาวะที่ร้อนแรงเกินไปในวันข้างหน้า
ประธานเฟดสาขาบอสตัน กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะขยายตัวร้อนแรงจนเลยจุดที่เรียกว่า "ยั่งยืน" ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น หรืออาจหนุนอัตราเงินเฟ้อให้พุ่งขึ้นเหนือระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมองว่า การยกเลิกนโยบายผ่อนคลายการเงินอย่างสม่ำเสมอและค่อยเป็นค่อยเป็นนั้น ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม
การแสดงความคิดเห็นของนายโรเซนเกรนเป็นไปในทิศทางเดียวกับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดซึ่งกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมหากเฟดจะเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถึงแม้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะยังอยู่ในทิศทางที่ไม่แน่นอนก็ตาม
ทั้งนี้ ถ้อยแถลงของนางเยเลนส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างในตลาดการเงินว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดย CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้