นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนออกโรงเตือนว่า บริษัทเอกชนของจีนมีหนี้สินที่สูงเกินไป การแสดงความเห็นดังกล่าวของนายโจวมีขึ้นในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสัมนาด้านการธนาคารระหว่างประเทศของกลุ่ม G30 ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นพร้อมกับการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก
"ปัญหาใหญ่ก็คือว่า หนี้สินของบริษัทเอกชนอยู่ในระดับที่สูงเกินไป ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เราต้องเดินหน้าความพยายามในการกำหนดนโยบายที่แข็งแกร่ง เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพด้านการเงิน" นายโจวกล่าว
นอกจากนี้ นายโจวกล่าวว่า หนี้สินของบริษัทเอกชนจีนนั้น ครอบคลุมถึงเงินกู้จากโครงการจัดสรรเงินกู้ของรัฐบาลท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม นายโจวกล่าวว่า เมื่อมีการทบทวนตัวเลขหนี้สินใหม่แล้ว การประมาณการตัวเลขหนี้สินของภาคเอกชนจะอยู่ที่ 120-130% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งลดลงจากตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 160% ของ GDP
ทั้งนี้ หนี้สินภาคเอกชนของจีนที่พุ่งสูงขึ้นถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลแก่นักลงทุนและเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายทั่วโลก โดยเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา IMF ได้ปรับเพิ่มคาดากรณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้สู่ระดับ 6.8% อย่างไรก็ตาม IMF เตือนว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะสร้างความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจจีน