ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เปิดฉากการประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันแล้วในวันนี้ โดยคาดว่าคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่น จะปรับลดการคาดการณ์เงินเฟ้อของปีงบประมาณปัจจุบัน ในขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้างยังคงอยู่ในภาวะที่จำกัด และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในภาวะที่ซบเซา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของราคา
คณะกรรมการบริหารซึ่งมีนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ มีแนวโน้มว่า จะคงกรอบนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของ BOJ ไว้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรปที่ได้ใช้มาตรการเดิมที่มีอยู่และนำมาใช้ภายหลังจากที่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2551
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดเองคงจะให้ความสนใจว่า นายโกชิ คาตาโอกะ บอร์ดของ BOJ ซึ่งไม่เห็นด้วยกับที่ประชุมในการประชุมเมื่อเดือนที่แล้ว จะเสนอทางเลือกอื่นหรือไม่ หลังจากที่นายคาตาโอกะ ระบุว่า มาตรการต่างๆที่ได้มีการนำมาใช้เมื่อเร็วๆนี้ ไม่เพียงพอที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายด้านราคาได้
การเปิดเผยคาดการณ์เงินเฟ้อนั้น คาดว่า จะมีการรายงานภายหลังการประชุม โดยหากมีการทบทวนเงินเฟ้อลงจากระดับคาดการณ์เดือนก.ค.ที่ 1.1% ก็จะเป็นการปรับลดคาดการณ์ติดต่อกัน 3 ครั้ง ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความยากลำบากของ BOJ ในการผลักดันราคาให้สูงขึ้น แม้ว่า จะใช้มาตรการกระตุ้นด้านการเงินมาเป็นเวลากว่า 4 ปีแล้วก็ตาม