หนึ่งในผู้บริหารด้านนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของ BOJ นั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับภาคธุรกิจในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ๆ เนื่องจากบริการเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นความต้องการในภาคครัวเรือน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายยูกิโตชิ ฟูโน่ หนึ่งในสมาชิกของคณะกรรมการบริหารด้านนโยบาย กล่าวสุนทรพจน์ให้กับผู้บริหารภาคธุรกิจที่เมืองมิยาซากิ ว่า แหล่งกำเนิดของนวัตกรรมเป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นเรื่องยากที่นวัตกรรมจะเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ได้ร้องขอมากไปกว่าสิ่งที่ได้มีการเสนอมาให้
อดีตผู้บริหารของโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป กล่าวว่า นโยบายผ่อนคลายการเงินของ BOJ ในปัจจุบันช่วยกระตุ้นความต้องการ และยังให้ผลดีในแง่ของการสนับสนุนนวัตกรรมต่างๆในภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ นายฟูโน่ยังได้กล่าวปกป้องการดำเนินการที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ของ BOJ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ที่ว่า ราคาสินค้าที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือน และชี้ว่า BOJ เองได้พยายามอย่างมากที่จะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างวงจรของกำไรในภาคธุรกิจ การขยายตัวของค่าแรง และการใช้จ่ายที่แข็งแกร่งในภาคครัวเรือน
นายฟูโน่ กล่าวต่อไปว่า นโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่จะทำให้เกิดเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเป็นไปอย่างมั่นคงมากกว่าที่จะทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นเท่านั้น เพราะการที่เศรษฐกิจมีเสถียรภาพด้านราคาด้วยเงินเฟ้อที่ระดับ 2% จะช่วยสร้างวงจรที่ถูกต้องและการขยายตัวของรายได้คึกคัก
ทั้งนี้ เป้าหมายเงินเฟ้อ ซึ่ง BOJ คาดว่า จะสามารถบรรลุผลสำเร็จได้ประมาณปีงบประมาณ 2562 นั้น ได้ถูกเหล่านักเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยานมากจนเกินไป โดยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งนับรวมราคาพลังงานแต่ไม่นับรวมอาหารสดนั้น เพิ่มขึ้นเพียง 0.7% ในเดือนก.ย. จากระดับปีที่แล้ว