นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ว่า เฟดควรชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงช่วงฤดูร้อนปีหน้า หรือประมาณกลางปี 2561 โดยควรประเมินทิศทางเงินเฟ้อก่อนว่าเป็นไปตามเป้าหมาย 2% หรือไม่ แล้วถึงค่อยดำเนินการขึ้นดอกเบี้ย
ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ รวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน จะสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็มีเจ้าหน้าที่บางรายที่ไม่เห็นเช่นนั้น โดยไม่นานมานี้ นายนีล คาชคารี ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิส เปิดเผยว่า เขาจะเดินหน้าคัดค้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธ.ค. เช่นเดียวกับที่เขาได้คัดค้านการดำเนินการดังกล่าวมาแล้วถึง 2 ครั้ง แม้มีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ก็ตาม
นายคาชคารีได้เปิดเผยในระหว่างขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตาว่า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ เขาจึงไม่เห็นเหตุผลที่จะไปขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจในขณะนี้ พร้อมกับกล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง เนื่องจากจะทำให้แรงจูงใจในการกู้ยืมลดน้อยลงด้วย
ด้านนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้กล่าวสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเธอได้แถลงมุมมองทางเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้ขยายตัวในวงกว้าง และหากมีการปรับนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป เศรษฐกิจก็จะยังคงมีการขยายตัว ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ นางเยลเลนได้แสดงมุมมองในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ก็ได้เตือนว่ายังคงมีปัญหาทางด้านโครงสร้างที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งได้แก่ ประชากรวัยสูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น และประสิทธิภาพการผลิตที่ซบเซา ซึ่งสภาคองเกรสควรพิจารณานโยบายที่จะกระตุ้นการลงทุนในภาคธุรกิจ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ยกระดับคุณภาพของระบบการศึกษา และนวัตกรรม รวมทั้งผลักดันการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ
ทั้งนี้ การประชุมครั้งต่อไปของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค. โดยประธานเฟดสาขาชิคาโกและประธานเฟดมินนิอาโปลิสต่างก็มีสิทธิลงมติในปีนี้