นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า BOJ จะเดินหน้านโยบายผ่อนคลายทางการเงิน "ขนานใหญ่" ต่อไป เพื่อจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน ขณะเดียวกันก็จะประเมินผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับนโยบายให้มีความเหมาะสมต่อไป
นายคุโรดะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักข่าวเกียวโดว่า BOJ จะ "ประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ราคา และภาวะการเงิน" ในการกำหนดเส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve) ที่เหมาะสม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า BOJ ได้เริ่มมีการปรับนโยบายใหม่เมื่อเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมา โดยได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ -0.1% และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0%
เหล่านักวิจารณ์ได้แสดงความเห็นไว้ว่า โครงการรับซื้อพันธบัตรขนานใหญ่ของ BOJ นั้นทำให้สภาพคล่องลดลง และอาจทำให้ควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้อยู่ในระดับต่ำได้ยากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี นายคุโรดะได้กล่าวเพื่อบรรเทาความวิตกว่า โครงการดังกล่าว "มีการดำเนินการอย่างราบรื่น โดย BOJ คาดการณ์ว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดจากการเดินหน้าโครงการรับซื้อพันธบัตรนั้น มีไม่มากในขณะนี้"
แม้อัตราเงินเฟ้อยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 2% ของ BOJ แต่นายคุโรดะมองว่า นโยบายดังกล่าวประสบความสำเร็จในการ "ยกระดับ" เศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยเขาคาดหวังว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่าจ้างจะก่อให้เกิด "วงจรที่เหมาะสม" ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ภาคครัวเรือนมีการใช้จ่ายอย่างแข็งแกร่ง จนส่งผลให้ภาคธุรกิจกล้าปรับขึ้นราคา และทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นต่อไป