นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวแสดงความเห็นว่า เฟดควรทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในการประเมินเรื่องการใช้เครื่องมือที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในครั้งหน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายดัดลีย์กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สว่า "ในขณะที่ยังไม่สัญญาณบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้น เฟดควรจะระบุให้ 'การกำหนดนโยบายการเงินอย่างรอบคอบ' อยู่ในวาระสำคัญของการบริหารจัดการเศรษฐกิจในปีนี้"
นายดัดลีย์ ซึ่งจะเกษียณอายุงานในฤดูร้อนปีนี้ กล่าวว่า เขาต้องการให้เฟดทบทวนเกี่ยวกับเครื่องมือต่างๆที่จะใช้ในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งรวมถึงการทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ซึ่งเฟดกำหนดไว้ในปี 2555 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้แสดงความกังวลว่า เป้าหมายดังกล่าวอาจทำให้เฟดไม่มีโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายดัดลีย์แนะนำว่า เฟดควรพิจารณาปรับเป้าหมายเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ 1.5%-2.5% แต่นายดัดลีย์ไม่เห็นด้วยที่จะเพิ่มเป้าหมายเงินเฟ้อขึ้นเป็น 4% จากระดับ 2% เนื่องจากการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อที่สูงเช่นนั้น จะขัดแย้งกับข้อกำหนดของสภาคองเกรสที่ต้องการให้เฟดเดินหน้าสร้างเสถียรภาพด้านราคา
นอกจากนี้ นายดัดลีย์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการปรับลดภาษีวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ที่สภาคองเกรสอนุมัติไปเมื่อเดือนที่แล้วนั้น อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะร้อนแรงเกินไปในปี 2562 หรือ 2563 เพราะจะทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงกว่าระดับ 2%