รายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งมีการเปิดเผยในวันนี้ ระบุว่า กรรมการ BOJ บางคนได้เสนอให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือชะลอการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
กรรมการรายหนึ่งของ BOJ กล่าวว่า การใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเป็นเวลานานเกินไปนั้น จะส่งผลกระทบต่อกำไรของธนาคารพาณิชย์ ขณะที่กรรมการอีกรายหนึ่งกล่าวว่า BOJ ควรตรวจสอบผลกระทบของนโยบายซื้อสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ กองทุน ETF
อย่างไรก็ตาม กรรมการส่วนใหญ่ของ BOJ มีความเห็นตรงกันว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่ BOJ จะคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นยังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2%
สำหรับการประชุม BOJ ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมมีมติด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 1 ให้คงนโยบายการเงินเชิงรุกต่อไป โดย BOJ จะรอให้ภาวะเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินของ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% ขณะเดียวกัน BOJ จะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตร โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระยะยาว ให้เคลื่อนไหวที่ระดับ 0%
นอกจากนี้ BOJ ยังคงระดับการซื้อกองทุน ETF และสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ในการประชุมเดือนธ.ค.