นายอิลมาร์ส ริมเซวิคส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางลัตเวีย ยืนยันในวันนี้ว่า เขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้ถูกกล่าวหาในคดีเรียกรับสินบน
ทั้งนี้ นายริมเซวิคส์กล่าวในการแถลงข่าวว่า เขาไม่ได้เรียกรับสินบนตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด และเขาตกเป็นเป้าของขบวนการสาดโคลนโดยธนาคารพาณิชย์บางแห่งของลัตเวียเพื่อทำลายชื่อเสียงของประเทศ
สื่อรายงานก่อนหน้านี้ว่า นายกรีกอรี กูเซลนิคอฟ ประธานธนาคารนอร์วิคของลัตเวีย เปิดเผยว่า นายริมเซวิคส์ได้เรียกรับสินบนนับตั้งแต่ปี 2558
ทางด้านประธานาธิบดี, นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคลังของลัตเวีย ต่างก็เรียกร้องให้นายริมเซวิคส์ลาออกจากตำแหน่งในระหว่างที่เขากำลังถูกสอบสวนในคดีดังกล่าว
อย่างไรก็ดี รัฐบาลไม่สามารถบังคับให้นายริมเซวิคส์ลาออกจากตำแหน่งได้ เนื่องจากตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางเป็นตำแหน่งที่เป็นอิสระจากการเมือง โดยมีเพียงคำสั่งศาลเท่านั้นที่จะทำให้นายริมเซวิคส์พ้นจากตำแหน่ง
ทางด้านนายเจแคบส์ สตรอม ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันการทุจริตแห่งชาติของลัตเวีย (CPB) กล่าววานนี้ว่า เจ้าหน้าที่จาก CPB ได้เข้าควบคุมตัวนายริมเซวิคส์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากเขามีความผิดในข้อหาเรียกรับสินบน
"มีการตั้งข้อหาคดีอาญาต่อนายริมเซวิคส์กรณีที่มีการเรียกรับสินบนมากกว่า 100,000 ยูโร" นายสตรอมกล่าว
อย่างไรก็ดี นายสตรอมยืนยันว่าการจับกุมตัวนายริมเซวิคส์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่สหรัฐกล่าวหาว่า ธนาคาร ABLV ของลัตเวียได้ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือแต่อย่างใด
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศระงับการชำระเงินของธนาคาร ABLV ของลัตเวีย ขณะที่ธนาคารประสบปัญหาสภาพคล่อง หลังจากที่ถูกสหรัฐกล่าวหาว่าได้ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐได้ออกมาตรการคว่ำบาตร ABLV เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกล่าวหาว่า ABLV ได้อนุญาตให้ลูกค้าทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ และทำธุรกรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อหรือส่งออกขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่อโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ สหรัฐยังได้กล่าวหา ABLV ว่า ผู้บริหารของธนาคารได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และมีการติดสินบนเจ้าหน้าที่ลัตเวีย
ทางด้าน ABLV ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐ และระบุว่า ทางธนาคารกำลังขอเงินทุนสนับสนุนจากธนาคารกลางลัตเวียเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
ธนาคารกลางลัตเวียออกแถลงการณ์ระบุว่า ธนาคารกลางยังคงเปิดดำเนินงานตามปกติ หลังมีข่าวว่า เจ้าหน้าที่จาก CPB ได้เข้าควบคุมตัวนายริมเซวิคส์ และได้บุกตรวจค้นบ้านพักของนายริมเซวิคส์ รวมทั้งสำนักงานของธนาคารกลางลัตเวีย
ทางด้านนายมาริส คูซินสกิส นายกรัฐมนตรีลัตเวีย ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินเมื่อวานนี้ แต่ก็ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของประเทศ
นายคูซินสกิสยังระบุว่ารัฐบาลจะไม่เข้าแทรกแซงการดำเนินงานของ CPB