ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เตรียมเปิดตัวอัตราดอกเบี้ย Secured Overnight Financing Rate (SOFR) ในวันนี้ เพื่อมาแทนที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน (LIBOR) หลังจากที่มีข่าวอื้อฉาวจากการที่ธนาคารหลายแห่งสมคบคิดกันปั่นอัตราดอกเบี้ย LIBOR ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย SOFR มีการคำนวณโดยอิงจากตลาดซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันราว 8 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี คาดว่าการที่นักลงทุนจะหันจากอัตราดอกเบี้ย LIBOR เพื่อมาใช้อัตราดอกเบี้ย SOFR จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากจะต้องใช้เวลาในการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดตราสารอนุพันธ์ซึ่งอิงบนอัตราดอกเบี้ย SOFR โดย CME Group จะเปิดตัวสัญญาล่วงหน้าที่ซื้อขายโดยอิงจากอัตราดอกเบี้ย SOFR ในวันที่ 7 พ.ค. ขณะที่ดีลเลอร์รายใหญ่จะเริ่มทำการซื้อขายสว็อปอัตราดอกเบี้ย SOFR ภายในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังต้องปรับตัวรับความผันผวนในตลาดซื้อคืนพันธบัตร เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมักดีดตัวขึ้นก่อนถึงกำหนดส่งมอบรายเดือน และรายไตรมาส
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LIBOR ถือเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่มีการกำหนดเป็นรายวัน ณ เวลา 11.45 น.ตามเวลาลอนดอน โดยธนาคารต่างๆจะเสนอตัวเลขอัตราดอกเบี้ยที่ทางธนาคารคาดว่าจะสามารถกู้ยืมเงินจากธนาคารอื่นๆ และต่อมาจะมีการหาค่าเฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ซึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับการขอสินเชื่อเพื่อการจำนอง และสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน
อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ย LIBOR ตกเป็นข่าวอื้อฉาวในปี 2555 หลังผลการสอบสวนพบว่าธนาคารหลายแห่งได้ทำการฉ้อโกงด้วยการเสนอตัวเลขอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ตรงกับความจริง เพื่อปิดบังสถานะที่แท้จริงของทางธนาคาร ส่งผลให้ธนาคารเหล่านี้ถูกปรับเป็นเงินจำนวนมากจากการปั่นอัตราดอกเบี้ย LIBOR
นายแอนดรูว์ เบลีย์ ประธานสำนักงานกำกับตลาดการเงินอังกฤษ (FCA) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ย LIBOR จะถูกทดแทนด้วยทางเลือกอื่นที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่าภายในสิ้นปี 2564