นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ, อัตราว่างงานที่ระดับต่ำ และเงินเฟ้อที่เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด เป็นปัจจัยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
นายพาวเวลระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ลดความจำเป็นในการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายซึ่งมีการใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์
นายพาวเวลกล่าวว่า ถึงแม้ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการเงิน แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปถือเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และได้รับการสนับสนุนจากกรรมการเฟดส่วนใหญ่
คำกล่าวของนายพาวเวลมีขึ้น หลังจากที่เฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
การปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นครั้งแรกในเดือนมี.ค. และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 นับตั้งแต่เฟดเริ่มวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558
นอกจากนี้ เฟดยังได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นในเดือนก.ย. และธ.ค. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้
ส่วนในปีหน้า เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง